กลุ่มธนาคารยูโอบีเซ็นสัญญากับเทมาเส็ก เพื่อสนับสนุนเงินร่วมทุนแก่บริษัทสตาร์ตอัพในจีน อินเดียและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายงานของ E&Y ฉบับหนึ่งระบุว่าตลาดธุรกิจเงินร่วมทุนในประเทศสิงคโปร์ จีน และอินเดียอาจมีมูลค่าถึง 2,200 ล้านเหรียญ สรอ. การร่วมทุนระหว่างยูโอบีและเทมาเส็กในครั้งนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายในการให้การสนับสนุนเงินร่วมทุนมูลค่า 500 ล้านเหรียญ สรอ. ในช่วงเวลา 5 ปีข้างหน้าเพื่อสนับสนุนบริษัทสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพ ในสาขาเทคโนโลยี การอุปโภคบริโภค การบริการด้านสุขภาพและพลังงานสะอาด
ภายใต้สัญญานี้ ธนาคารยูโอบีจะถือหุ้น 50 เปอร์เซ็นต์ใน InnoVen Capital (InnoVen) ซึ่งในปัจจุบันถือหุ้นเต็มโดยเทมาเส็ก หลังจากกระบวนการเข้าถือหุ้นใหม่เสร็จสิ้น ทั้งธนาคารยูโอบีและเทมาเส็กจะเพิ่มเงินจดทะเบียนที่ชำระแล้วฝ่ายละ 100 ล้านเหรียญ สรอ. ให้กับบริษัทร่วมทุนนี้
อีริค แทม (Eric Tham) กรรมการผู้จัดการพาณิชย์ธนกิจ กลุ่มธนาคารยูโอบี กล่าวว่าการร่วมมือนี้เป็นการผนึกรวมความเข้มแข็งและประสบการณ์ของธนาคารกับธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และความเชี่ยวชาญของเทมาเส็กในการลงทุนในธุรกิจเงินร่วมลงทุนชั้นนำทั่วโลก
“ธุรกิจเงินร่วมลงทุนมีความสำคัญ เพราะช่วยให้บริษัทสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพสูงในเอเชียเติบโตไปเป็นธุรกิจชั้นนำระดับโลก เราได้เห็นตัวอย่างนี้ในประเทศจีนและอินเดีย ซึ่งมีระบบสนับสนุนการพัฒนาของธุรกิจร่วมทุนที่ดี และสิงคโปร์ซึ่งได้รับการยอมรับให้เป็นศูนย์กลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วในด้านการสนับสนุนแก่บริษัทสตาร์ตอัพ” นายแทมกล่าว
“การร่วมธุรกิจระหว่างเราและเทมาเส็กจะทำให้ตลาดบริษัทสตาร์ตอัพในประเทศเหล่านี้คึกคักมากขึ้นโดยการให้ทางเลือกแก่บริษัทสตาร์ตอัพในการเติบโตและ เพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มหรือลดสัดส่วนการถือหุ้นลง”
นาย Ong Beng Teck รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มงานพัฒนาวิสาหกิจ เทมาเส็ก กล่าวว่า “เทมาเส็กมีความมุ่งมั่นในการพัฒนา InnoVen และพัฒนาการเติบโตของบริษัทสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพโดยการทำงานร่วมกับวิสาหกิจและนักลงทุนทั่วเอเชีย ความร่วมมือในระดับภูมิภาคในครั้งนี้จะเลือกเฟ้นบริษัทชั้นนำสำหรับอนาคตและให้การสนับสนุนตามความต้องการเพื่อเอื้อต่อการเติบโตและความสำเร็จของธุรกิจ”
InnoVen เป็นธุรกิจเงินร่วมลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดียที่มุ่งเป้าไปยังบริษัทสตาร์ตอัพที่มีอัตรการเจริญเติบโตที่สูง นอกจากจะมีธุรกิจที่มั่นคงในประเทศอินเดียแล้ว บริษัทร่วมทุนนี้ยังมองการขยายธุรกิจไปยังประเทศสิงคโปร์และประเทศจีนในอีกไม่กี่เดือนที่มาถึงด้วยการให้บริการร่วมทุนกับบริษัทสตาร์ตอัพที่มีการเติบโตสูงในตลาดเหล่านี้
ธนาคารยูโอบีให้บริการการร่วมทุนแก่ธุรกิจในสิงคโปร์ที่เติบโตเร็ว
Reebonze เป็นบริษัทสตาร์ตอัพสิงคโปร์รายหนึ่งที่ใช้ประโยชน์จากธุรกิจร่วมทุนในการเติบโตโดยที่ไม่ต้องลดสัดส่วนของผู้ถือหุ้น
ในเดือนตุลาคม ปี 2557 ธนาคารยูโอบีได้ประเดิมธุรกิจ่วมทุนในประเทศสิงคโปร์กับบริษัท Reebonze ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมร์ซระดับบน ธนาคารยูโอบีได้ให้เงินร่วมทุนแก่ Reebonze ตั้งแต่ระยะแรกของธุรกิจและนับเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนการโตอย่างต่อเนื่องของบริษัท
Samuel Lim กรรมการผู้จัดการใหญ่ Reebonze กล่าวว่า “เงินร่วมทุนของธนาคารยูโอบีทำให้บริษัทมีเงินกองทุนเพียงพอกับการประกอบกิจการ และทำให้ธุรกิจเงินร่วมทุนเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการระดมทุนของเรา และทำให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้”
นอกจากนี้ธนาคารยูโอบียังได้ให้การสนับสนุนการร่วมทุนแก่ Heptagon ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไมโครออฟติกซึ่งช่วยให้บริษัทมีการเติบโตรวดเร็วในไม่กี่ปีที่ผ่านมา
วันที่ 21 กรกฎาคม 2558
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สายงานบริหารสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร
ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
ปริษฐา ยุทธมานพ โทร. 0-2343-4965