ยูโอบีตั้งเป้าขยายสินเชื่อระหว่างประเทศเพิ่มอีกเท่าตัวก่อนเออีซีเริ่ม
พร้อมเปิดหน่วยงานใหม่เพื่อช่วยเหลือบริษัทไทยที่ต้องการขยายธุรกิจในอาเซียน


ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ประกาศแผนการขยายสินเชื่อระหว่างประเทศให้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวภายใน 2 ปีนับจากนี้ ทั้งนี้เป็นผลจากการพิจารณาถึงสภาพการค้าระหว่างภูมิภาคที่เพิ่มมากขึ้น และการลงทุนระหว่างประเทศ (เอฟดีไอ) ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วโดยนักลงทุนชาวไทยที่เข้าไปบุกเบิกก่อนการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2558 นี้  พร้อมกันนี้ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ยังได้เปิดหน่วยงานที่ปรึกษาการลงทุนระหว่างประเทศ (FDI Advisory Unit) เพื่อให้คำปรึกษาและช่วยเหลือบริษัทไทยที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ รวมถึงบริษัทต่างชาติที่กำลังมองหาลู่ทางการลงทุนในประเทศไทย

หน่วยงานที่ปรึกษาการลงทุนเอฟดีไอ เป็นช่องทางที่ธนาคารยูโอบีตั้งขึ้นใหม่เพื่อให้ลูกค้าทั้งในภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไปเข้าถึงบริการทางการเงินของยูโอบีได้อย่างครบวงจร และสามารถติดต่อกับเครือข่ายธนาคารระหว่างประเทศของยูโอบีในประเทศต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม  นอกเหนือจากความสะดวกสบายที่ได้รับอย่างครบถ้วนจากการติดต่อเพียงจุดเดียวแล้วลูกค้ายังสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายระหว่างประเทศของยูโอบีเพื่อติดต่อกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในด้านกฎหมาย การตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษาและหน่วยงานราชการต่างๆ ได้อีกด้วย โดยในระยะเริ่มแรก หน่วยงานที่ปรึกษาการลงทุนเอฟดีไอจะมุ่งให้ความสำคัญกับบริษัทของไทยที่มีแผนขยายธุรกิจในภูมิภาคนี้เป็นหลัก

ยุคทองของการลงทุนในประเทศไทยและเอเชีย

เอเชียกำลังเป็นภูมิภาคที่ทวีความสำคัญมากขึ้นสำหรับตลาดการลงทุนเอฟดีไอในระดับโลก  ปัจจุบัน สัดส่วนตลาดเอฟดีไอในอาเซียนอยู่ที่ร้อยละ 8.2 เมื่อเทียบกับตลาดเอฟดีไอทั่วโลก หรือโตขึ้นร้อยละ 2 หลังจากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี พ.ศ. 2540  ในช่วงระหว่างปี 2552-2555 พบว่ามีการลงทุนของตลาดเอฟดีไอที่ไหลเข้ามาในอาเซียนมีอัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 227 คิดเป็นมูลค่า 107 พันล้านเหรียญสหรัฐ  ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเงินที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยประมาณ 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ1

นายเอริค แทม กรรมการผู้จัดการ พาณิชย์ธนกิจ กลุ่มธนาคารยูโอบี กล่าวว่า “จากสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้ธุรกิจไทยสามารถแสดงศักยภาพของการเป็นผู้ประกอบการได้อย่างโดดเด่น ในขณะที่เรากำลังย่างเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะช่วยเปิดตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เพิ่มขึ้นอีกมาก ประเทศไทยมักเป็นทางเลือกที่เหมาะสมเพราะมีปัจจัยสนับสนุนที่เหมาะสมกับการลงทุน และอยู่ใกล้กับประเทศอินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดไชน่า  จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่สั่งสมมานานพร้อมธุรกิจที่ขยายและเติบโตอย่างยั่งยืนในภูมิภาคนี้ ทำให้ยูโอบีมีจุดแข็งในด้านการการเป็นที่ปรึกษาแก่บริษัทต่างๆ ที่มองหาโอกาสด้านการลงทุนใหม่ๆ”

ปัจจุบัน มีธุรกิจไทยจำนวนมากที่กำลังมองหาโอกาสเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตในต่างประเทศ เพื่อลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มแรงงานที่มีทักษะสูงขึ้น  โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้ระบุว่า ปี พ.ศ. 2554 เป็นปีแรกที่ตัวเลขการลงทุน เอฟดีไอในต่างประเทศ (ธุรกิจไทยที่ลงทุนในต่างประเทศ) เติบโตมากกว่าการลงทุนเอฟดีไอในประเทศ (ธุรกิจต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย)  โดยตัวเลขการลงทุนเอฟดีไอในต่างประเทศของธุรกิจไทยร้อยละ 35 เป็นการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน

“ในขณะที่เราต้องดำเนินธุรกิจท่ามกลางช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูง เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจได้พุ่งเป้ามาที่เอเชีย หน่วยงานที่ปรึกษาการลงทุนเอฟดีไอของยูโอบีจะเป็นแหล่งรวมข้อมูลเชิงลึก ประสบการณ์และตัวอย่างการลงทุนที่ประสบความสำเร็จของบริษัทต่างๆ ที่ลูกค้าสามารถเรียนรู้และมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อลงทุนในภูมิภาคนี้ซึ่งเป็นภูมิภาคที่น่าลงทุนที่สุดในโลกปัจจุบัน” นายแทม กล่าวเสริม

ยูโอบีเปิดตัวหน่วยงานที่ปรึกษาเอฟดีไอในงานสัมมนา ‘ก้าวสู่ภูมิภาค: ความสำเร็จของธุรกิจไทยในอาเซียน’

ธนาคารยูโอบี ได้ประกาศเปิดตัวหน่วยงานที่ปรึกษาเอฟดีไอในงานสัมมนา ‘ก้าวสู่ภูมิภาค: ความสำเร็จของธุรกิจไทยใน
อาเซียน’ ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ (7 มีนาคม 2556) โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตร อาทิ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) องค์กรการค้าระหว่างประเทศ ณ ประเทศสิงคโปร์ (International Enterprise Singapore) ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของรัฐบาลสิงคโปร์  Rajah & Tann Thailand บริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมาย  และ RSM Chio Lim Singapore บริษัท ที่ปรึกษาด้านบัญชีและธุรกิจ  ในงานสัมมนาดังกล่าว ลูกค้าและพันธมิตรที่เข้า ร่วมงานกว่า 70 คนต่างได้รับความรู้และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับการลงทุนในต่างประเทศ ได้แก่ ขอบเขตของกฎหมาย ข้อกำหนดทางภาษี และโครงสร้างขององค์กร

1ข้อมูลจาก การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด


วันที่ 7 มีนาคม 2556
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

สายงานบริหารสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
บุญญาพร วงษ์ใบแก้ว โทร. 0-2343-4965
หรือ ชลฤทัย ดาวเงิน โทร. 0-2343-4913