ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด
กลุ่มธนาคารยูโอบี ช่วยดึงดูดการลงทุนจากหลายประเทศในภูมิภาคเข้าสู่เมียนมา เป็นมูลค่าการลงทุนมากกว่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในระยะเวลา 24 เดือน นับจากการตั้งสำนักงานธนาคารยูโอบีที่ย่างกุ้งในปี พ.ศ 2558
ทั้งนี้ เป็นการลงทุนจากองค์กรธุรกิจข้ามชาติและบริษัทระดับภูมิภาค จากภาคการผลิต ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีฐานการดำเนินงานในประเทศจีน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงค์โปร์ และประเทศไทย โดยกลุ่มธนาคารยูโอบีได้ให้การสนับสนุนด้วยบริการสินเชื่อธุกิจและให้คำแนะนำด้านการเงินอื่นๆ เช่น การจัดหาเงินทุนโครงการ การบริหารเงินสด บริการสินเชื่อเครือข่ายธุรกิจการค้า
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่าในปีที่ผ่านมา เมียนมาเป็นตลาดที่ไทยเข้าไปลงทุนเป็นอันดับต้นๆ นอกจากนี้ จากรายงานผลการสำรวจแนวโน้มการขยายการลงทุนขององค์กรธุรกิจ ปี พ.ศ. 2559 โดยธนาคารยูโอบี ระบุว่า 1 ใน 3 ของบริษัทไทยมีแผนขยายการลงทุนเข้าไปในเมียนมาภายใน 3 – 5 ปีนี้
นางสาวปิยพร รัตน์ประสาทพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ พาณิชย์ธนกิจ ธนาคารยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า “วิสาหกิจไทยเห็นศักยภาพในระยะยาวของเมียนมา เป็นอีกหนึ่งจุดหมายการลงทุนที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง”
การลงทุนในสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อรองรับธุรกิจที่กำลังขยายตัวในเมียนมา เป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มธนาคารยูโอบีได้สนับสนุนลูกค้ามากกว่า100 รายในภูมิภาคนี้ ให้เกิดการลงทุนในธุรกิจที่เอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจเมียนมา” ปิยพรกล่าว
บริษัทหนึ่งที่มีส่วนร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมียนมา ได้แก่ บริษัท ES Offshore Marine and Engineering (Thailand) Co. , Ltd ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการต่อเรือและซ่อมแซมเรือ สำหรับเรือนอกชายฝั่งและทางทะเล
นายเสริม ตัณฑเสถียร กรรมการบริษัท อีเอส ออฟชอร์และมารีน เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เมียนมาอยู่ในช่วงผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทุกประเภท ตั้งแต่การพัฒนาถนน การผลิตพลังงาน ไปจนถึงอุตสาหกรรมการต่อเรือการเดินเรือ และจะเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตอีกในระยะยาว ธนาคารยูโอบีให้การสนับสนุนการขยายธุรกิจของเราผ่านทางระบบการเงินในประเทศ เราหวังว่าจะสามารถทำงานร่วมกับธนาคารยูโอบีได้มากขึ้นในขณะที่ยังคงขยายธุรกิจในเมียนมาต่อไป”
และเพื่อช่วยให้การทำธุรกิจข้ามพรมแดนประสบความสำเร็จ ธนาคารยูโอบีได้จัดตั้ง หน่วยงานที่ปรึกษาด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI Advisory Unit) ขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2556 เพื่อให้คำปรึกษาทางการเงินและช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าที่ประสงค์จะลงทุนในประเทศเมียนมา กับธุรกิจต่างๆ รวมถึงหน่วยงานรัฐบาล ซึ่งยูโอบี เป็นธนาคารต่างชาติรายแรกที่ให้บริการคำปรึกษานี้ในเมียนมาและนับเป็นสาขาที่ 9 ในภูมิภาค
สำหรับประเทศไทย หน่วยงานที่ปรึกษาด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI Advisory Unit) ได้ก่อตั้งขึ้นปีพ.ศ. 2556 ซึ่งได้สนับสนุนกลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจให้เกิดการลงทุนทั้งในและนอกประเทศไทยมาแล้วกว่า 125 ราย และด้วยเครือข่ายที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชีย ประกอบกับศักยภาพในการเชื่อมต่อกับหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล จึงทำให้ ยูโอบีสามารถให้บริการด้านการลงทุนแบบเบ็ดเสร็จครบในที่เดียว และสามารถตอบโจทย์การขยายการลงทุนในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้และในภูมิภาคอื่น ซึ่งเป็นจุดแข็งของยูโอบี