เทคนิคการขอสินเชื่อแม่ค้าออนไลน์ กู้อย่างไรให้ผ่าน

ในปัจจุบันรูปแบบการซื้อขายสินค้าแบบ E-Commerce บน Online Platform ต่างๆ เช่น Shopee และ Lazada กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เมื่อปริมาณการซื้อสินค้าบน E-Commerce ของผู้บริโภคมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด ส่งผลให้จำนวนผู้ขายบน E-Commerce ก็มีการเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน ผู้ขายสินค้าออนไลน์ หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ต่างก็มุ่งพัฒนาธุรกิจออนไลน์ของตนเองให้เติบโต เพื่อให้พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ขายบางรายที่อาจจะไม่ได้มีเงินลงทุนที่สามารถนำมาใช้ขยายร้านค้าได้ในทันที “สินเชื่อแม่ค้าออนไลน์” จึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตต่อไปได้โดยไม่สูญเสียโอกาสในการขาย สำหรับพ่อค้าหรือแม่ค้าออนไลน์ที่สนใจและอยากทราบว่าสินเชื่อนี้คืออะไร มีข้อดีอย่างไร และควรจะต้องเตรียมตัวเพื่อขอสินเชื่ออย่างไรบ้าง วันนี้เรารวบรวมข้อมูลดีๆ มาไว้ให้แล้วที่นี่

สินเชื่อแม่ค้าออนไลน์ดีอย่างไร

ในการขายสินค้าแบบออนไลน์ เงินทุนหมุนเวียนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับร้านค้า การเพิ่มสต๊อกสินค้าพร้อมขาย การเพิ่มแรงงาน หรือแม้แต่เพื่อการทำการตลาด รวมถึงการส่งเสริมการขายต่างๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ทันเวลา จะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณสามารถเพิ่มยอดขาย กำไร และเติบโตไปได้ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ สินเชื่อเพื่อธุรกิจสำหรับแม่ค้าออนไลน์นี้เองที่จะช่วยให้ผู้ค้าอีคอมเมิร์ซสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อใช้หมุนเวียนในธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

แล้วจะต้องเตรียมตัวเพื่อขอสินเชื่อสำหรับแม่ค้าออนไลน์อย่างไร

ผู้ค้าอีคอมเมิร์ซหลายรายอาจจะมีความกังวลใจเมื่อต้องติดต่อขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินหรือธนาคาร เนื่องจากเป็นอาชีพอิสระและไม่มีสลิปเงินเดือนเป็นหลักฐานประกอบการขอสินเชื่อ วันนี้เรามีแนวทางการเตรียมตัวเพื่อขอสินเชื่อสำหรับผู้ค้าอีคอมเมิร์ซมาฝาก ดังนี้

1. การรักษาเครดิตบูโร
   รักษาประวัติการชำระหนี้ในเครดิตบูโร (Credit Bureau) ให้ดีอยู่เสมอ เพื่อสร้างประวัติทางการเงินที่ดีซึ่งส่งผลดีต่อการขอสินเชื่อในอนาคต โดยทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสามารถยื่นคำขอตรวจเครดิตบูโรได้ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโรในสาขาต่างๆ ที่เปิดให้บริการ
   
   

2. การจดทะเบียนพาณิชย์
   การจดทะเบียนพาณิชย์ หรือทะเบียนการค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าออนไลน์แล้ว ทะเบียนพาณิชย์ยังเป็นหลักฐานที่ใช้ประกอบการขอสินเชื่อหรือกู้ยืมต่างๆ กับสถาบันการเงินหรือธนาคารด้วย ธุรกิจที่มีทะเบียนพาณิชย์จะมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สามารถตรวจสอบได้ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และสามารถติดตามได้หากมีกรณีการฉ้อโกงเกิดขึ้น จึงถือว่าทะเบียนพาณิชย์เป็นเอกสารสำคัญที่อาจทำให้สถาบันการเงินหรือธนาคารมีเหตุผลที่จะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
   
   

3. การเสียภาษีเงินได้
   การเสียภาษีอย่างถูกต้องครบถ้วนในทุกๆ ปีจะช่วยสร้างเครดิตทางการเงินที่ดีให้กับคุณเช่นกัน

   • กรณีเป็นบุคคลธรรมดา
     หากเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั่วไปที่ไม่ได้มีการเปิดหรือจดทะเบียนในรูปแบบบริษัท จะถือเป็นการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาซึ่งถูกจัดอยู่ในเงินได้ประเภทที่ 8 หรือ ม.40 (8) คือ เงินได้จากการค้าขาย กรณีที่มีรายได้จากการขายของออนไลน์เกิน 60,000 บาท (กรณีโสด) หรือมีรายได้เกิน 120,000 บาท (กรณีสมรส) ต่อปี จะต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งสามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายได้ 2 แบบ คือ หักค่าใช้จ่ายตามจริง หรือหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% โดยพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะต้องยื่นภาษี 2 รอบ ได้แก่ ภง.ด. 90 (ยื่นภาษีสิ้นปี) ที่มีกำหนดยื่นช่วงเดือนม.ค. - มี.ค. และยื่น ภง.ด. 94 (ยื่นภาษีครึ่งปี) ช่วงเดือน ก.ค. - ก.ย. โดยที่การยื่น ภง.ด. 94 เป็นการยื่นรายได้ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาโดยไม่ต้องรวมรายรับจากงานประจำ
   • กรณีเป็นบริษัท นิติบุคคล ห้างหุ้นส่วน
     ร้านค้าที่จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด และห้างหุ้นส่วนสามัญ ที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล กรณีที่มีรายได้จากการขายของออนไลน์ จะต้องเสียภาษีโดยหักจากค่าใช้จ่ายตามจริงเท่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องเก็บหลักฐานค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงต้องจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นตรวจสอบภาษีด้วย โดยเจ้าของร้านค้าออนไลน์ที่เป็นนิติบุคคลจะต้องยื่นภาษี ภง.ด. 51 ทุกๆ 6 เดือน โดยมีระยะเวลาอีก 2 เดือนหลังจากทำธุรกิจครบ 6 เดือนในการเตรียมเอกสารเพื่อยื่นภาษีนิติบุคคล และยื่นภาษี ภง.ด. 50 ทุกๆ ต้นปี (ภายใน 150 วันหลังขึ้นปีใหม่) สำหรับรายรับตลอดทั้งปี แม้ว่าธุรกิจจะมีรายรับหรือกำไรหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ หากเป็นร้านค้าออนไลน์ที่มียอดขายตลอดทั้งปีมากกว่า 1.8 ล้านบาท จำเป็นจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.01) และต้องมีการยื่นภาษีมูลค่าเพิ่มทุกวันที่ 15 ของเดือน รวมถึงต้องออกใบกำกับภาษีให้กับผู้มาซื้อสินค้าหรือใช้บริการด้วย

4. รักษา Bank Statement ให้ดี
   ควรจัดเก็บหลักฐานที่แสดงรายรับ-รายจ่ายให้เป็นระบบ ถูกต้องและครบถ้วน เพื่อแสดงความเคลื่อนไหวทางการเงินและแหล่งที่มาของรายได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าได้อีกทางหนึ่ง
   
   

5. รายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30)
   สำหรับประเภทธุรกิจที่จะต้องรายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม เจ้าของธุรกิจที่มีรายได้มากกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปีและขึ้นทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วจะต้องจัดทำแบบแสดงรายการสรุปภาษีซื้อ-ขาย (ภ.พ. 30) เพื่อนำส่งกรมสรรพากรทุกเดือน โดยจะต้องทำก่อนภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ซึ่งรายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) นี้เป็นหนึ่งในเอกสารประกอบการขอสินเชื่อที่สถาบันการเงินหรือธนาคารจะใช้พิจารณาเพื่ออนุมัติสินเชื่อด้วย
   
   

6. บิลซื้อ-บิลขาย จากลูกค้ารายหลัก
   ควรจัดเก็บ บิลซื้อ-บิลขาย ไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงว่ามีการซื้อ-ขายที่เกิดขึ้นจริงระหว่างร้านค้าและลูกค้า ทั้งนี้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าออนไลน์ของคุณทั้งในมุมมองของลูกค้า รวมถึงสถาบันการเงินหรือธนาคารนั่นเอง
   
   นอกจากเอกสารที่กล่าวไปแล้วข้างต้น อย่าลืมศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารอื่นๆ ที่จำเป็นจะต้องใช้ประกอบการขอสินเชื่อตามข้อกำหนดของแต่ละสถาบันการเงินหรือธนาคารอีกครั้ง ทั้งนี้เพื่อให้การยื่นขอสินเชื่อดำเนินไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วยิ่งขึ้น
   
   

UOB BizMerchant สินเชื่อเพื่อแม่ค้าออนไลน์บน Shopee และ Lazada

สินเชื่อ UOB BizMerchant เป็นสินเชื่อที่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจ SME ที่มีร้านค้าที่มีการซื้อขายสินค้า/บริการ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่ให้วงเงินสูงสุดถึง 1 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ แถมผ่อนยาวๆ ได้นานถึง 12 เดือน โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

จุดเด่นผลิตภัณฑ์ UOB BizMerchant

• สินเชื่อประเภทวงเงินกู้ ผ่อนชำระเป็นรายงวด (Term Loan) ระยะเวลาการกู้ยืมสูงสุด 12 เดือน
• วงเงินสูงสุด 1,000,000 บาท

คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ SME

• มีการขายสินค้าบนแอปพลิเคชันแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada มาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน
• บุคคลธรรมดาสัญชาติไทย หรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนธุรกิจในประเทศไทย
• กรณีนิติบุคคล งบการเงินที่ตรวจสอบแล้วไม่มีผลขาดทุนติดต่อกันในช่วง 3 ปีล่าสุด และไม่มีส่วนทุนติดลบ
• ไม่เป็น NPL / ไม่อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ / ไม่มีประวัติชำระเงินล่าช้าในข้อมูลเครดิตบูโร

สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินเชื่อแม่ค้าออนไลน์ UOB BizMerchant ได้ที่นี่

เพิ่มโอกาสในการขายและการเติบโตให้กับร้านค้าของคุณได้ทันใจ เพียงแค่ให้ UOB BizMerchant สินเชื่อเพื่อแม่ค้าออนไลน์บน Shopee และ Lazada เป็นตัวช่วย สนใจสมัครสินเชื่อ คลิกเลย

สมัครสินเชื่อ