กองทุนรวมน่าซื้อ เก็บออมก็ได้ ลดหย่อนภาษีก็ดี

การวางแผนทางการเงินเพื่ออิสรภาพทางการเงินเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับทุกคน หนึ่งในวิธีการยอดนิยมสำหรับการวางแผนทางการเงินที่ดีคือการลงทุนกับกองทุน โดยเฉพาะ ‘กองทุนรวม’ เนื่องจากกองทุนเป็นรูปแบบการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกลงทุนในกองทุนใดๆ เราควรศึกษารูปแบบ เงื่อนไขและผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุนให้ละเอียดก่อนทุกครั้ง

กองทุนรวมคืออะไร ?

กองทุนรวม (Mutual Fund) คือ การรวบรวมเงินของนักลงทุนมาลงทุนตามนโยบายที่กองทุนรวมนั้นๆ ได้กำหนดไว้ ซึ่งจะมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพที่บริหารจัดการกองทุน โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทำหน้าที่ระดมเงินทุนกองทุนไปจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และนำกองทุนนั้นไปลงทุนตามนโยบายตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนการลงทุน

ระดับความเสี่ยงของกองทุน

กองทุน เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการลงทุนประเภทอื่นๆ ดังนั้นในแต่ละกองทุนจึงมีการกำหนดระดับความเสี่ยงของกองทุนเพื่อให้นักลงทุนรับทราบ โดยมีระดับความเสี่ยงเรียงจากน้อยไปมาก ตั้งแต่ระดับ 1-8 ได้แก่

• ความเสี่ยงระดับ 1 - กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ
• ความเสี่ยงระดับ 2 - กองทุนรวมตลาดเงินทั้งในและต่างประเทศ
• ความเสี่ยงระดับ 3 - กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล
• ความเสี่ยงระดับ 4 - กองทุนรวมตราสารหนี้
• ความเสี่ยงระดับ 5 - กองทุนรวมผสม
• ความเสี่ยงระดับ 6 - กองทุนรวมตราสารทุน หรือ กองทุนรวมหุ้น
• ความเสี่ยงระดับ 7 - กองทุนรวมหุ้นหมวดอุตสาหกรรม
• ความเสี่ยงระดับ 8 - กองทุนรวมที่ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก
• ความเสี่ยงระดับ 8+ - กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงจากการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญและถูกกำกับไว้ในหนังสือชี้ชวนสำหรับกองทุน

เมื่อได้ทำความเข้าใจ และทราบความหมายของกองทุนรวมและระดับความเสี่ยงของกองทุนรวมประเภทต่างๆ แล้ว หากใครกำลังสนใจในการลงทุน หรือกำลังมองหากองทุนรวมเพื่อลงทุนระยะยาว ลดหย่อนภาษี หรือเก็บออมไว้ใช้ยามเกษียณ เราขอแนะนำกองทุนรวมจากธนาคารยูโอบีที่น่าลงทุน ดังนี้

แนะนำกองทุนรวมจากธนาคารยูโอบี (UOB) ตัวไหนน่าซื้อ น่าลงทุน

1. กองทุนผสม (Mixed Fund)

   กองทุนผสม คือ หนึ่งในกองทุนรวมที่นักลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะเอาเงินทุนไปลงทุนในหุ้น หรือตราสารหนี้ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง โดยกองทุนผสมแบ่งเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ กองทุนรวมผสม (Balanced Fund) ซึ่งเป็นการลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ และการลงทุนในรูปแบบตราสารอื่นๆ โดยมีอัตราส่วนของตราสารทุนไม่น้อยกว่า 35% แต่ต้องไม่เกิน 65% ของหน่วยลงทุนในขณะนั้น และ กองทุนรวมแบบผสมยืดหยุ่นซึ่งเป็นกองทุนรวมแบบผสมไม่กำหนดสัดส่วน ทำให้นักลงทุนเลือกความเสี่ยงของกองทุนได้
   ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กองทุนผสม จากธนาคารยูโอบี ทั้งหมดได้ที่นี่
   
   

2. กองทุนหุ้น (Equity Fund)

   กองทุนหุ้น หรือ กองทุนรวมหุ้น (Stock Mutual Fund) หรือมีชื่อเต็มว่า กองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund) เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารทุนและหุ้น อาทิ หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ในการซื้อขายหลักทรัพย์ รวมถึงหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอื่นๆ โดยสัดส่วนการลงทุนตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) คือ ไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ
   ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กองทุนหุ้น จากธนาคารยูโอบี ทั้งหมดได้ที่นี่

3. กองทุนเพื่อการออม (Super Saving Fund: SSF)

   กองทุนรวมเพื่อการออม หรือ SSF เป็นกองทุนที่รัฐบาลอนุญาตให้จัดตั้งเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว ซึ่งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ด้วย (ระหว่างปี 2563-2567) โดยเป็นกองทุนที่เลือกลงทุนในตลาดเงิน ตราสารหนี้ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ สินทรัพย์ทางเลือก อสังหาริมทรัพย์ หรือกองทุนผสม อาจเรียกได้ว่าเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนระยะยาวและมีความเสี่ยงต่ำ สามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 200,000 บาท เมื่อรวมกับสิทธิการลดหย่อนภาษีอื่นๆ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
   ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กองทุนรวมเพื่อการออม จากธนาคารยูโอบี ทั้งหมดได้ที่นี่
   
   

4. กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF)

   กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนให้เลือกหลากหลายระดับความเสี่ยง ตั้งแต่ตลาดเงิน ตราสารหนี้ ไปจนถึงหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศ โดยเป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสะสมเงินเก็บออมระยะยาวสำหรับใช้จ่ายยามเกษียณ คล้ายกับกองทุนเพื่อการออมหรือกองทุนบำเหน็จ บำนาญของข้าราชการ
   ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ จากธนาคารยูโอบี ทั้งหมดได้ที่นี่

   นอกจากนี้สำหรับการออมเงินเพื่อเลี้ยงชีพยามเกษียณนั้น ยังมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund: PVD) ซึ่งเป็นกองทุนภาคสมัครใจที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการออมระยะยาวของลูกจ้างและให้มีเงินเก็บไว้ใช้หลังจากเกษียณอายุงาน อีกทั้งยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุด ‘ไม่เกิน 15%’ ของรายได้ ซึ่งแม้จะไม่ใช่กองทุนรวมแต่ก็ถือเป็นอีกกองทุนที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย

   นอกจากกองทุนทั้ง 4 ประเภท ที่กล่าวมาข้างต้นแล้วธนาคารยูโอบี ยังมีกองทุนอื่นๆ ที่น่าสนใจ ทั้งกองทุนตลาดเงิน กองทุนตราสารหนี้ และ กองทุนต่างประเทศ โดยผู้ลงทุนควรเลือกประเภทของกองทุนให้เหมาะกับวัตถุประสงค์และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ รวมถึงควรศึกษาข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนการลงทุน และข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับนโยบายการลงทุนก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยทุกครั้ง
   ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กองทุนรวม จากธนาคารยูโอบี ทั้งหมดได้ที่นี่

คำเตือน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวด้วย ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต