ธนาคารยูโอบี (ไทย) ฉลองครบรอบ 20 ปีในประเทศไทย
นับเป็นธนาคารสิงคโปร์ที่ดำเนินการเป็นธนาคารพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบแห่งเดียวในประเทศไทย
UOB bank
ธนาคารยูโอบี (ไทย) ฉลองครบรอบ 20 ปีในประเทศไทย
นับเป็นธนาคารสิงคโปร์ที่ดำเนินการเป็นธนาคารพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบแห่งเดียวในประเทศไทย
ธนาคารยูโอบี (ไทย) จัดงานฉลองครบรอบ 20 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจ นับเป็นธนาคารสิงคโปร์ที่ดำเนินการเป็นธนาคารพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบแห่งเดียวในประเทศไทย โดยมีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายเควิน ฉ็อก เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 400 คนเข้าร่วมแสดงความยินดีในโอกาสพิเศษนี้
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชม ธนาคารยูโอบี ในความมุ่งมั่นของธนาคารต่อประเทศไทย โดยกล่าวว่า “ธนาคารยูโอบีมีรากฐานมาอย่างมั่นคงในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2542 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในไม่กี่ธนาคารต่างประเทศที่ยังคงเปิดดำเนินการธนาคารพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบในประเทศ ด้วยความที่ยูโอบีเป็นธนาคารที่ได้รับการยอมรับทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงนับเป็นส่วนเสริมสำคัญต่อแนวทาง การเชื่อมโยงระหว่างยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงต่างๆในภูมิภาค” นอกจากนี้ นายอุตตมยังย้ำอีกว่า ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะทำให้อาเซียนเป็นภูมิภาคที่โดดเด่นและจะเป็นผู้นำในการเชื่อมโยงประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเข้าด้วยกันภายใต้กรอบความร่วมมือและการดำเนินงานต่างๆ
ในโอกาสนี้ นายเควิน ฉ็อก เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ยังได้กล่าวถึงโอกาสทางเศรษฐกิจของอาเซียน พร้อมชื่นชมธนาคารยูโอบี “ยูโอบี เป็นหนึ่งในสามธนาคารชั้นนำในประเทศสิงคโปร์ โดยเป็นธนาคารแห่งเดียวที่มีการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งในภูมิภาคอาเซียนและในประเทศไทย ด้วยกลยุทธ์ของธนาคารที่มุ่งมั่นและมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทำให้ขณะนี้ ยูโอบี เติบโตเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมขอแสดงความยินดีกับยูโอบี ในโอกาสพิเศษของการฉลองการดำเนินธุรกิจครบ 20 ปีในประเทศไทย ผมเชื่อมั่นในความมุ่งมั่นของยูโอบีที่มีต่อประเทศไทย ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของธนาคารต่ออนาคตของประเทศไทย”
นาย วี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี ได้ยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของธนาคารในการสนับสนุนประเทศไทยในการเข้าถึงโอกาสต่างๆ ในภูมิภาค “มีการคาดคะเนว่าภายในปี พ.ศ. 2573 ภูมิภาคเอเชีย จะก้าวขึ้นเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของโลก และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว ด้วยเครือข่ายที่เข้มแข็งครอบคลุมทั่วภูมิภาค การเชื่อมโยงพร้อมบริการและโซลูชันที่ไร้พรมแดนของธนาคารยูโอบี เราเชื่อมั่นว่าเราจะช่วยสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจไทยที่ต้องการขยายการลงทุนในตลาดต่างประเทศและโอกาสอื่นๆ ที่มีในภูมิภาคได้”
นายวี อี เชียง ย้ำถึงแนวคิดการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างคุณค่าต่อการทำธุรกิจว่า “หัวใจสำคัญของทุกการตัดสินใจและดำเนินงานของเราทั้งหมดคือค่านิยมที่เรายึดมั่นทั้ง 4 ประการ ได้แก่ คุณธรรม ความสร้างสรรค์ ความเป็นหนึ่งเดียวและความมุ่งมั่น นับตั้งแต่ก่อตั้งธนาคารยูโอบีเมื่อ 84 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี คุณค่าที่เรายึดมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อลูกค้า ยังคงสืบสานและได้รับการปฏิบัติโดยพนักงานจากรุ่นสู่รุ่น ความมุ่งมั่นของพวกเราทุกคนที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าและสร้างสรรค์สิ่งที่ดีเพื่อชุมชนในระยะยาวยังมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง”
นอกจากนี้ นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี (ไทย) ได้ใช้โอกาสนี้เพื่อขอบคุณลูกค้าของธนาคารทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและเชื่อมั่นในธนาคารยูโอบี (ไทย) อย่างต่อเนื่อง โดยตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
ธนาคารยูโอบีเข้าดำเนินธุรกิจในประเทศไทยด้วยการเข้าซื้อกิจการของธนาคารรัตนสิน ใน พ.ศ 2542 และ เข้าซื้อธนาคารเอเชียใน พ.ศ 2547 ต่อมาจัดตั้งขึ้นเป็นธนาคารยูโอบี (ไทย) ใน พ.ศ 2548 ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา ธนาคารยูโอบี (ไทย) เติบโตเป็นธนาคารต่างประเทศที่ดำเนินการเป็นธนาคารพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศไทย และเป็นอันดับสองของกลุ่มธนาคารยูโอบี
บรรยายใต้ภาพ (จากซ้ายไปขวา):
วันที่ 4 ธันวาคม 2562
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สายงานบริหารสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร
ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
นิดา ภู่วนิชย์ โทร. 0-2343-4963