ข่าวประชาสัมพันธ์ธนาคาร

ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับวินัยทางการเงินเพื่อฟื้นจากวิกฤตโควิด-19

กว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างชาวไทยเพิ่มสัดส่วนการออมเป็นลำดับแรก

กรุงเทพ, 11 มีนาคม 2564 – ผลการสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของธนาคารยูโอบี[1] พบว่าผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพทางการเงินมากขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาด และให้ความสำคัญมากกว่ากลุ่มตัวอย่างจากประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เกือบ 3 ใน 4 (ร้อยละ 72) ของคนไทยต้องการจัดการกับเรื่องการเงินเป็นลำดับต้นๆ ซึ่งมากกว่ากลุ่มตัวอย่างในมาเลเซีย (ร้อยละ 70) เวียดนาม (ร้อยละ 69) อินโดนีเซีย (ร้อยละ 60) และสิงคโปร์ (ร้อยละ 46)

 

ร้อยละ 64 ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยกล่าวด้วยว่าพวกเขาได้เปลี่ยนวิธีบริหารจัดการการเงินและเริ่มต้นที่จะบันทึกค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาวินัยทางการเงินในช่วงโควิด-19 ในบรรดากลุ่มมิลเลนเนียล[2] ชาวไทย(ร้อยละ 66) มีการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมทางการเงินที่โดดเด่นที่สุด พวกเขาเพิ่มการรัดเข็มขัดและติดตามค่าใช้จ่ายของตนอย่างใกล้ชิดขึ้นมากในช่วงที่มีการระบาด มากกว่าสามในสี่ (ร้อยละ 76) ของมิลเลนเนียลชาวไทยยังกล่าวว่าพวกเขาใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อช่วยติดตามสถานะทางการเงินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

แนวโน้มพฤติกรรมการติดตามค่าใช้จ่ายนี้ ยังเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มลูกค้ามิลเลนเนียลของ TMRW เช่นกัน ธนาคารดิจิทัลแห่งแรกในอาเซียนโดยธนาคารยูโอบีนี้ มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าจากปี 2563 โดยลูกค้าได้ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ Smart Insights ที่เรียนรู้พฤติกรรมการใช้จ่ายรายบุคคลด้วยเทคโนโลยี AI และช่วยให้ลูกค้าวางแผนทางการเงินได้ดียิ่งขึ้น ผ่านอินไซต์สรุปรายการค่าใช้จ่ายรายเดือนในแต่ละหมวด พร้อมฟังก์ชันที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถกำหนดงบประมาณค่าใช้จ่ายรายเดือนล่วงหน้าได้เอง และรับการแจ้งเตือนเมื่อการใช้จ่ายใกล้ถึงงบประมาณที่ตั้งไว้

 

นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินของผู้บริโภคชาวไทยแล้ว การระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลต่อเป้าหมายทางการเงินของพวกเขาด้วย การสำรวจครั้งนี้ยังพบว่าผู้บริโภคชาวไทยมากกว่าครึ่ง (ร้อยละ 52) ปรับเปลี่ยนพอร์ตการเงินใหม่ โดยเพิ่มสัดส่วนของเงินออมคิดเป็นร้อยละ 40 ของการเปลี่ยนแปลง ตามด้วยเงินฝากประจำ (ร้อยละ 39) และแผนประกัน (ร้อยละ 36) หนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทย (ร้อยละ 36) ยังกล่าวด้วยว่าพวกเขาได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุน ในช่วงที่มีการแพร่ระบาด

 

นายยุทธชัย เตยะราชกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “การศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอาเซียนปี 2563 นี้ แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยกำลังพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสในการเสริมสร้างสุขภาพทางการเงิน เพื่อให้พวกเขามีความยืดหยุ่น ปรับตัวได้ในระหว่างการแพร่ระบาด และสามารถฟื้นกลับมาอย่างแข็งแกร่งหลังจากสถานการณ์ผ่านพ้นไป เราพร้อมเสมอที่จะช่วยเหลือลูกค้าในการสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนผ่านความรู้ความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการความมั่งคั่งและผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายสำหรับลูกค้ารายย่อยของเรา”

 

การสำรวจเกี่ยวกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาเซียนโดยธนาคารยูโอบี จัดทำขึ้นเพื่อทำความเข้าใจผู้บริโภคในอาเซียนให้ดีขึ้น เนื่องจากภูมิภาคนี้มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจไปอย่างรวดเร็ว กลุ่มตัวอย่างในการตอบแบบสอบถามมีจำนวนมากกว่า 3,500คนจาก5ประเทศในอาเซียน รวมถึงกลุ่มตัวอย่างชาวไทยกว่า600คน

 

[1] การสำรวจนี้จัดทำโดยธนาคารยูโอบีในเดือนกรกฎาคม ปี 2563 ในกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 3,500 คน มีอายุระหว่าง 18 ถึง 65 ปี ในอาเซียน 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซียสิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม

[2] มิลเลนเนียลคือกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ 25 – 36 ปี

เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี (ประเทศไทย)

ธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ จากัด ประเทศไทย (กลุ่มธนาคารยูโอบี) เป็นธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีเครือข่ายทั่วประเทศ 152 สาขาและเครื่องเบิกเงินสดอัตโนมัติ 410 เครื่อง (ข้อมูลถึงวันที่ 31 มกราคม 2564) ยูโอบีเป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย มีเครือข่ายระดับโลกที่ประกอบด้วยสำนักงานมากกว่า 500 แห่ง ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งในเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ กลุ่มธนาคารยูโอบี มีสินค้าและบริการด้านการเงิน โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหัวใจในการให้บริการ ธนาคารยูโอบี (ประเทศไทย) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในลำดับ AAA โดยฟิทช์ เรทติ้งส์

 

ธนาคารยูโอบี (ประเทศไทย) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในลำดับ AAA โดยฟิทช์ เรทติ้งส์ 

 

กลุ่มธนาคารยูโอบี ให้ความสำคัญกับกิจกรรมเพื่อสังคมโดยเน้นที่ศิลปะ เยาวชนและการศึกษา กลุ่มธนาคารยูโอบีได้จัดเวทีประกวดศิลปะที่ต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศสิงคโปร์ ได้แก่ การประกวดจิตรกรรมยูโอบี ซึ่งได้ขยายมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นการยืนยันถึงบทบาทของกลุ่มธนาคารยูโอบีในการสนับสนุนวงการศิลปะ สมาคมศิลปะประจำชาติแห่งประเทศสิงคโปร์ได้ยกย่องกลุ่มธนาคารยูโอบีให้เป็นผู้อุปถัมภ์ศิลปะทรงเกียรติ 10 ปีติดต่อกัน ในปี 2557 กลุ่มธนาคารยูโอบียังได้สนับสนุนให้พนักงานทั่วภูมิภาคร่วมกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งรวมถึงกิจกรรม UOB Heartbeat Run ซึ่งจัดในประเทศจีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย

ญาดา ศรีสัมมาชีพ (นุ่น)   
สบริหารสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร
Email:  yada.sri@uob.co.th
Tel: +66 (0)2343 4965; 
Mobile: +66 (0) 8464 00058