ไม่ว่าจะยุคไหนๆ การทำประกันชีวิตเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน ด้วยความผันผวนทางเศรษฐกิจ และโรคภัยต่างๆ ที่ส่งผลให้การดำเนินชีวิตของผู้คนจำนวนมากอยู่บนความไม่แน่นอนตลอดเวลา จึงทำให้การทำประกันชีวิตยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้น สำหรับมือใหม่ที่กำลังสนใจทำประกันชีวิต อาจเกิดความสับสนได้ว่าควรเลือกประกันชีวิตแบบไหนดี ประกันชีวิตแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร มีข้อดีครบตามความต้องการและเหมาะกับตัวเองหรือไม่ ตัวไหนบ้างที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ วันนี้เรารวบรวมคำตอบมาให้แล้วที่นี่
ประกันชีวิต คือประกันที่ดูแลชดเชยเมื่อเราเสียชีวิต
หากเริ่มต้นทำความเข้าใจกับประกันชีวิต คงต้องอธิบายว่าประกันชีวิตเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินชนิดหนึ่ง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณจัดการความเสี่ยงของชีวิต ซึ่งพื้นฐานการดูแลของประกันชีวิตจะมีความหมายตรงตัวคือ การดูแลชีวิตหรือดูแลยามคุณเสียชีวิต เพื่อมอบหลักประกันที่ได้ทำไว้ให้กับคนที่อยู่ข้างหลัง เมื่อเราไม่สามารถดูแลพวกเขาได้ ในปัจจุบันประกันชีวิตได้ถูกออกแบบมาหลากหลายประเภทให้เลือกสรร มีทั้งประกันชีวิตแบบพื้นฐานทั่วไปและประกันชีวิตแบบพิเศษ ซึ่งความแตกต่างของประกันชีวิตแต่ละแบบ มีดังนี้
อยากทำประกันชีวิต เลือกทำประกันชีวิตแบบไหนดี ถึงเหมาะกับตัวเอง คุ้มครองสูง ลดหย่อนภาษีได้
ประกันชีวิตแบบพื้นฐาน
-
แบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance)
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา เป็นประกันชีวิตที่คุ้มครองการเสียชีวิตเพียงอย่างเดียว โดยมีช่วงระยะเวลาที่จำกัดตาม เงื่อนไข เช่น 1ปี, 5 ปี, 10 ปี หรือ 20 ปี เป็นต้น ซึ่งหากเราทำประกันชนิดนี้และเกิดเหตุไม่คาดฝัน หรือเสียชีวิตในระยะ เวลาดังกล่าว ประกันจะทำการจ่ายเงินตามเงื่อนไขให้กับผู้รับผลประโยชน์ที่เราได้แจ้งไว้ แต่ถ้าครบระยะเวลาการคุ้มครอง แล้วจะถือว่าสัญญาสิ้นสุดลง และหากผู้ทำประกันยังมีชีวิตก็จะไม่ได้รับเงินชดเชยในส่วนนี้คืนแต่อย่างใด เพราะจะถือว่า เงินที่ชำระมานั้นแลกกับการคุ้มครองไปแล้วนั่นเอง
จุดเด่น
- เบี้ยชำระวงเงินต่ำ
- ให้วงเงินความคุ้มครองสูง
- ระยะเวลาส่งสั้น และสามารถเลือกเองได้
เหมาะกับใคร
- เหมาะกับผู้ที่เป็นเสาหลักดูแลครอบครัว หรือเป็นหัวหน้าครอบครัว
- เหมาะกับผู้ที่มีกำลังทรัพย์ในการจ่ายเบี้ยน้อย แต่มีความต้องการดูแลชีวิตและครอบครัวที่รัก หากเกิดการเสียชีวิต
-
แบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance)
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองชีวิตที่ยาวนานที่สุด โดยส่วนมากจะคุ้มครองชีวิตให้จนถึง 90 - 99 ปีเลยทีเดียว โดยที่เราจ่ายเบี้ยประกันเพียงแค่ 10 หรือ 20 ปีแรกเพียงเท่านั้น ซึ่งหากคุณเสียชีวิตในช่วงอายุการคุ้มครองดังกล่าว ประกันก็จะจ่ายเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ให้กับผู้รับประโยชน์นั่นเอง แต่หากคุณมีอายุยืนยาวครบตามกำหนด คุณก็จะได้รับทุนประกันชีวิตตามเงื่อนไขของสัญญากลับคืนมานั่นเอง
จุดเด่น
- คุ้มครองชีวิตยาวนาน สูงสุดถึง 99 ปี
- ค่าเบี้ยจ่ายต่อเนื่องเพียงแค่ 10 - 20 ปีแรก ตามเงื่อนไขของประกันเพียงเท่านั้น
เหมาะกับใคร
- ผู้ที่เป็นหัวหน้าครอบครัว และต้องการมีหลักประกันไว้ให้คนที่ยังอยู่
- คนที่ต้องการส่งต่อเงินประกันให้เป็นมรดกลูกหลาน
-
แบบสะสมทรัพย์ (Endowment / Saving Insurance)
การประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เป็นการนำเอาแบบประกันภัย 2 แบบมารวมกัน คือ แบบชั่วระยะเวลา และ แบบสะสมทรัพย์ ซึ่งจะให้ทั้งความคุ้มครองและการออมทรัพย์รวมอยู่ด้วยกัน โดยคุณจะต้องจ่ายค่าเบี้ยตามกำหนดสัญญาทุกปีต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี หรือ 20 ปี หรืออาจจะต้องชำระทุกปีจนถึงอายุ 55 หรือ 60 ปี ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงตอนทำสัญญานั่นเอง และหากผู้เอาประกันเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่คุ้มครองอยู่ ประกันชีวิตจะจ่ายเงิน ตามจำนวนที่ระบุไว้ให้กับผู้รับประโยชน์ แต่หากเรายังมีชีวิตอยู่หลังครบกำหนด ประกันก็จะจ่ายเงินคืนให้แก่เราในวันที่ครบกำหนดสัญญานั่นเอง ซึ่งประกันชีวิตประเภทนี้เป็นประกันที่คนให้ความนิยมสูง ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะทำประกันแบบไหนดี ประกันประเภทนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเช่นกัน
จุดเด่น
- เป็นประกันที่ให้คุณได้ทั้งออมเงินและรับความคุ้มครองไปได้พร้อมๆ กัน
- เป็นประกันที่คุณ หรือผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินตามจำนวนที่ทำประกันเอาไว้อย่างแน่นอน
เหมาะกับใคร
- ผู้ที่ต้องการออมเงินไว้เป็นเงินก้อนเพื่อใช้ในอนาคต
- ผู้ที่ต้องการออมเงินพร้อมกับรับความคุ้มครองด้านชีวิต
- ผู้ที่มีกำลังทรัพย์ในการชำระค่าเบี้ย เพราะประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์มีค่าเบี้ยที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
-
แบบบำนาญ (Annuities Insurance)
ประกันชีวิตแบบบำนาญ คือ การออมเงินระยะยาวในรูปแบบประกันชีวิต ที่ช่วยคุณเก็บออมเงินเอาไว้ใช้ยามเกษียณ และให้ความคุ้มครองชีวิตในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อีกด้วย โดยเราต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันต่อเนื่องไปจนถึงอายุที่กำหนด 55 ปี หรือ 60 ปี หลังจากนั้นประกันจะเริ่มจ่ายเงินคืนแบบบำนาญกลับมาให้เราตามทุนประกัน และตามช่วงระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ในสัญญา ซึ่งหากระหว่างทางเกิดเสียชีวิตก่อน ผู้รับผลประโยชน์ก็จะได้รับเงินตามทุนประกันที่เลือกไว้ แต่หากเสียชีวิตหลังเกษียณ หรือขณะที่ยังได้รับเงินบำนาญอยู่ ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับทั้งเงินบำนาญที่เหลือและเงินตามทุนประกันที่เลือกไว้นั่นเอง
- เป็นประกันที่ให้คุณได้ทั้งออมเงินระยะยาวควบคู่กับความคุ้มครองไปได้พร้อมๆ กัน
- เป็นประกันประเภทเดียวที่คุณจะได้รับเงินคืนหลังเกษียณอย่างแน่นอน
เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้สูง เพราะต้องจ่ายค่าเบี้ยเป็นระยะเวลานาน
- ผู้ที่ต้องการออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณและต้องการมีรายได้ที่แน่นอนหลังเกษียณ
- ผู้ที่ต้องการออมเงินระยะยาวควบคู่กับความคุ้มครองชีวิต
ประกันชีวิตแบบพิเศษ
-
ประกันชีวิตควบการลงทุน (Investment linked life insurance)
เป็นการประกันชีวิตอีกทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้ทั้งความคุ้มครองชีวิตและรับผลตอบแทนที่มากกว่าประกันชีวิตทั่วไป โดยค่าเบี้ยที่จ่ายไปจะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ความคุ้มครองชีวิต, ค่าธรรมเนียมค่าใช้จ่ายต่างๆ และเงินลงทุน โดยปัจจุบันประกันชีวิตควบการลงทุนสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
- ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงค์ (Unit Linked) คือ เลือกบริหารกองทุนเอง และรับความเสี่ยงของผลตอบแทนเอง
- ประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ (Universal Life) คือ มอบให้บริษัทประกันเป็นผู้บริหารการลงทุน ซึ่งจะได้รับการันตีผลตอบแทนขั้นต่ำตามที่บริษัทรับรองไว้อย่างแน่นอน
ข้อดีของการทำประกันชีวิต ทำไมคนส่วนใหญ่เลือกที่จะทำ
สำหรับใครที่ยังลังเลว่าทำประกันชีวิตแล้วดีอย่างไร ทำไมคนส่วนใหญ่เลือกที่จะทำ เพื่อเสริมความมั่นใจในการตัดสินใจ เลือกทำประกันชีวิตแบบไหนดีที่เหมาะกับตัวคุณนั้น เราลิสต์มาให้แล้ว
- สร้างความคุ้มครอง เพิ่มความมั่นคงให้ครอบครัวในวันที่มีเหตุไม่คาดฝัน เพราะประกันชีวิตจะมอบผลประโยชน์ที่คุณได้ทำไว้ในวันนี้ให้กับคนในครอบครัว หรือคนที่คุณรัก ไว้ใช้ดูแลตัวเองในยามที่คุณไม่อยู่แล้ว
- สร้างวินัยในการออม ประกันชีวิตบางประเภทเป็นประกันที่ช่วยคุณออมเงินเพื่อนำไปใช้ในอนาคตได้
- สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ประกันชีวิตทุกประเภทสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีรายปีได้ แบบทั่วไป สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึงปีละ 100,000 บาท และประกันชีวิตแบบพิเศษ สามารถลดหย่อน ภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาท
- เพิ่มเงินเก็บจากการควบประกันกับการลงทุน สำหรับผู้ที่ทำประกันชีวิตควบการลงทุน นอกจากจะได้รับการคุ้มครองชีวิตแล้ว คุณยังจะได้เงินเก็บเพิ่มจากการปันผล หรือจากการลงทุนเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับการทำประกันชีวิตที่เราได้รวบรวมและนำมาฝากให้กับคนที่กำลังสนใจและอยากทำประกันชีวิต สำหรับใครที่อยากได้ประกันชีวิตดีๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรที่ยูโอบีเรามีแผนประกันชีวิตจากบริษัทพาร์เนอร์ชั้นนำให้เลือกหลากหลายประเภทที่จะคอยดูแลชีวิตคุณตามไลฟ์สไตล์ และตามความต้องการที่แตกต่าง สามารถคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันชีวิตจากยูโอบี ได้ที่นี่