You are now reading:
กองทุนลดหย่อนภาษี SSF และ RMF เลือกแบบไหนดี
แค่ฝากเงิน ฟรีประกัน 7 โรคมะเร็งในผู้หญิง รับความคุ้มครองทุกระยะ ตั้งแต่ตรวจพบ เจอ-จ่าย-จบ สูงสุด 2 ล้านบาท
รายละเอียดลงทุนในกองทุน United CIO Income Fund และ United CIO Growth Fund บริหารกองทุนโดย Chief Investment Officer จาก UOB Private Bank
เพิ่มเติมคุณกำลังอยู่ที่ ลูกค้าบุคคลทั่วไป
You are now reading:
กองทุนลดหย่อนภาษี SSF และ RMF เลือกแบบไหนดี
สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีน่าจะเคยได้ยินหรือรู้จักกองทุน SSF และ RMF กันมาบ้างแล้ว แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบความแตกต่างระหว่างการลงทุนทั้ง 2 แบบ และไม่แน่ใจว่าควรลงทุนในกองทุนตัวใดถึงจะตอบโจทย์ความต้องการได้มากกว่ากัน วันนี้เราชวนคุณมาทำความรู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขการลงทุนของ SSF และ RMF เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการลดหย่อนภาษีได้ดียิ่งขึ้น
กองทุน SSF และ RMF เป็นกองทุนที่ถูกคิดขึ้นมาเพื่อผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการออมและได้ผลตอบแทนในระยะยาว โดยมีสิทธิประโยชน์ในการนำไปลดหย่อนภาษีเข้ามาเป็นแรงจูงใจให้เกิดการลงทุน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 กองทุนนี้มีความแตกต่างทั้งวัตถุประสงค์และเงื่อนไขในการใช้ลดหย่อนภาษี ผู้ที่ต้องการออมเงินและลงทุน โดยใช้สิทธิด้านการลดหย่อนภาษีจึงจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดและความเสี่ยงของแต่ละกองทุนให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนเสมอ
เป็นหนึ่งในกองทุนรวมที่มาแทนกองทุน LTF (Long Term Equity Fund) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมในระยะยาว จุดเด่นของกองทุนลดหย่อนภาษี SSF คือ มีความยืดหยุ่น ผู้ที่สนใจสามารถเลือกลงทุนได้ทุกประเภทของสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนทองคำ หรือกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น อีกทั้งเรายังสามารถรับเงินปันผลจากบางกองทุนได้ด้วย กองทุนนี้จึงเหมาะกับคนวัยทำงานที่มีรายได้ปานกลางเข้าเกณฑ์เสียภาษีและตั้งใจออมเงินในรูปแบบการลงทุนระยะยาวอย่างน้อย 10 ปี พ่วงกับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี สำหรับเงื่อนไขในการขอลดหย่อนภาษีนั้น ผู้ลงทุนจะต้องถือครองกองทุนเอาไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ โดยกองทุนนี้ไม่จำเป็นจะต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี ซื้อปีใดก็ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ในปีนั้น ๆ แต่สามารถซื้อได้สูงสุดเพียง 30% ของรายได้ต่อปี และไม่เกิน 200,000 บาท รวมถึงสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนการออมอื่น ๆ
สำหรับกองทุน RMF ก็เป็นหนึ่งในกองทุนรวมเพื่อการออมเงินเช่นกัน แต่เป็นกองทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการส่งเสริมการออมที่เอาไว้ใช้จ่ายยามเกษียณอายุ ซึ่งก็จะคล้าย ๆ กันกับกองทุนบำเหน็จ บำนาญของข้าราชการ หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทเอกชน ดังนั้น กองทุนนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ตั้งใจออมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณนั่นเอง ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ได้ทุกประเภท ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนทองคำ หรือกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น และสามารถรับสิทธิในการลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามการลงทุนใน RMF มีเงื่อนไขว่า ผู้ลงทุนสามารถซื้อได้สูงสุดเพียง 30% ของเงินได้ต่อปี และไม่เกิน 500,000 บาท โดยไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ แต่จะต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี เว้นได้ไม่เกิน 1 ปี อีกทั้งต้องถือครองกองทุนไว้อย่างน้อย 5 ปี และจะขายได้เมื่อมีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ โดยสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงถึง 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการออมอื่น ๆ
|
SSF |
RMF |
คำจำกัดความ |
กองทุนเพื่อส่งเสริมการออมในระยะยาว |
กองทุนเพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายยามเกษียณอายุ |
เหมาะกับใคร |
ผู้ที่มีเป้าหมายการออมระยะยาว 10 ปี และต้องการลดหย่อนภาษี |
ผู้ที่วางแผนออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณอายุ และต้องการลดหย่อนภาษี |
เงินปันผล |
มีทั้งแบบจ่ายและไม่จ่ายเงินปันผล |
ไม่มีการจ่ายเงินปันผล |
หลักทรัพย์ในการลงทุน |
ได้ทุกประเภทของสินทรัพย์ ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนทองคำ หรือ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น |
|
หลักทรัพย์ในการลงทุน |
สามารถซื้อได้ตลอดทั้งปี |
|
สิทธิประโยชน์ด้านการลดหย่อนภาษี |
สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท |
สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท |
เงื่อนไขการซื้อ เพื่อลดหย่อนภาษี |
สามารถซื้อได้สูงสุด 30% ของเงินได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี ซื้อในปีใดก็ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี ได้ในปีนั้น ๆ |
สามารถซื้อได้สูงสุด 30% ของเงินได้ และต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี เว้นได้ไม่เกิน 1 ปี |
ระยะเวลาถือครอง |
อย่างน้อย 10 ปี |
อย่างน้อย 5 ปี |
เงื่อนไขการขาย |
ต้องถือครองไว้อย่างน้อย 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ จึงจะขายคืนหน่วยที่ลงทุนได้ |
สามารถขายได้เมื่อ มีอายุครบ 55 ปี บริบูรณ์ |
จำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ |
ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ (1 บาท ก็สามารถลงทุนได้ทั้งกองทุน SSF และ RMF) |
คำเตือน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวด้วย ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
เมื่อได้ทราบความแตกต่าง และเงื่อนไขสำหรับการนำไปใช้ลดหย่อนภาษีระหว่างกองทุน SSF และ RMF ที่เราได้นำมาฝากกันแล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาว่าจะเลือกซื้อกองทุนแบบใดดี อย่างไรก็ตามเนื่องจากทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล หรือปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง สำหรับผู้ที่กำลังมองหากองทุนอื่น ๆ ที่น่าสนใจ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุนรวมจากธนาคารยูโอบี ได้ที่นี่ กองทุนรวมเสนอขายโดยธนาคารยูโอบี
ข้อมูลอ้างอิง